วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การติดตั้งโคมไฟในบ้าน

Posted by M.R. K | วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 | Category: |


          โคมไฟเพดาน มีอยู่หลายแบบ ทั้งไฟที่ติดกับเพดาน ไฟที่ห้อยจากเพดาน และไฟที่ฝังลงในฝ้า-เพดาน สามารถเลือกใช้ผสมกันได้ โดย 2 แบบแรกใช้ส่องสว่างทั่วทั้งห้อง ส่วนแบบที่ 3 ใช้เน้นเฉพาะจุดและสามารถปรับความสว่างได้ด้วยดิมเมอร์

โคมไฟตั้งพื้น / ตั้งโต๊ะ เพื่อส่องเน้นบนโต๊ะทำงาน หรือสำหรับมุมที่ต้องการแสงสว่างเป็นพิเศษ โคมไฟประเภทนี้จึงควรปรับทิศทางและระดับในการส่องสว่างได้

โคมไฟฝังพื้น / ติดผนัง ส่วนใหญ่ใช้ส่องสว่างบริเวณทางเดินหรือบันได หากเป็นโคมไฟติดผนังมักติดตั้งให้ส่องแสงขึ้นบน หรืองล่างเพื่อไม่ให้แสงส่องสว่างกระทบกับผู้ใช้โดยตรง


ประเภทของหลอดไฟ
ฟลูออเรสเซ้นต์ นิยมใช้ส่องสว่างในบริเวณทั่วไป แสงมีลักษณะฟุ้งกระจาย

ฮาโลเจน เป็นหลอดไฟที่ให้แสงสีเหลืองเหมือนหลอดไส้ แต่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ลักษณะของแสงมีความคมมากกว่าฟลูออเรสเซ้นต์ จึงนิยมใช้สำหรับการตกแต่ง

LED นิยมใช้ในงานตกแต่งเพราะมีสีสันหากหลายมีขนาดเล็ก และให้แสงสว่างที่ไม่ร้อน


ข้อคิดการออกแบบไฟฟ้าแสงสว่าง

     Light Solutions เพราะแสงไฟไม่ได้ทำหน้าที่ส่องสว่างอย่างเดียว แต่ยังสร้างบรรยากาศดีๆ เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำงานอีกด้วย

เลือกดวงโคมให้ตรงกับการใช้งาน แทนที่จะวางตำแหน่งโคมให้แสงสว่างกระจายไปทั่วบริเวณ อาจจะเลือกให้แสงสว่างเฉพาะในบริเวณที่ต้องการความสว่างสูง เช่น บริเวณโต๊ะทำงาน โดยให้แสงสว่างบริเวณอื่นลดลง วิธีนี้จะช่วยลดภาระไฟฟ้าแสงสว่างต่อพื้นที่ห้องลงได้มาก แต่ควรต้องระวังไม่ให้ความสว่างในแต่ละพื้นที่ต่างกันมากเกินไป จะทำให้สายตาปรับสภาพได้ยาก
แยกวงจรไฟฟ้าให้เหมาะสม ควรออกแบบการแยกวงจรไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยออกแบบให้บริเวณที่ต้องการใช้แสงสว่างเหมือนกัน เช่น ดวงโคมที่ใช้งานในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ในวงจรเดียวกัน เพื่อช่วยลดจำนวนดวงโคมที่ไม่ได้ใช้งานลง


ใช้แสงประดิษฐ์ร่วมกับแสงธรรมชาติ การใช้แสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านจะทำให้ลดการใช้งานแสงประดิษฐ์ ในพื้นที่ที่แสงธรรมชาติเข้ามาถึง ควรแยกวงจรสวิตซ์ที่อยู่แนวหน้าต่างออกมาต่างหาก เพื่อปิดการใช้งานในเวลาที่ใช้แสงธรรมชาติแทนแต่ต้องคำนึงถึงเรื่องความร้อนที่เข้ามาด้วย

ลดช่วงเวลาการใช้งานด้วยอุปกรณ์ไฮเทค เช่น ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวในการเปิด-ปิดไฟ แทนการใช้สวิตซ์ในส่วนที่ไม่ต้องการเปิดตลอดเวลา หรือการใช้สวิตซ์ตั้งเวลาเปิด-ปิดสำหรับส่วนที่มีช่วงเวลาเปิด-ปิดไฟที่แน่นอน เช่น สวนนอกบ้าน เพื่อช่วยลดช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้งานลง

เลือกใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ควรเลือกใช้หลอดประหยัดพลังงานที่ให้ความสว่างเท่ากันหรือมากกว่า แต่ใช้วัตต์น้อยลง และเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น อิเล็กทรอนิกส์บัลลาสต์ นอกจากนี้ควรเปลี่ยนอุปกรณ์ตามอายุการใช้งาน เนื่องจากหลอดไฟหากใช้งานใกล้หมดอายุ ประสิทธิภาพจะลดลงมาก แต่กินไฟเท่าเดิม และหมั่นทำความสะอาดดวงโคมเป็นประจำก็จะช่วยให้ดวงโคมมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและสว่างขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน


ขอขอบคุณบทความจาก  :  http://siamhomedecoration.com    โดย  ยูเรก้า


สนับสนุนโดย : www.skythailandshop.com

























Currently have 0 ความคิดเห็น:


Leave a Reply